เธอไม่ได้เกิดมาพร้อมมงกุฎแต่เธอเลือกเดินเข้าสู่ทางที่เต็มไปด้วยแสงไฟและสายตาที่จ้องมองในวันที่ผู้คนตัดสินเธอโดยไม่รู้จักตัวตนแท้จริงของเธอเลยหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะก้าวขึ้นเป็นราชินีของแผ่นดินเธอไม่ใช่เจ้าหญิงในเทพนิยายแต่เธอคือนิยามใหม่ของความกล้าหาญและศักดิ์ศรีสุธิดาวงษ์ศรีอรุณเกิดเมื่อวันที่3มิถุนายนพศัก2521ที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนธรรมดาไม่มีตำแหน่งไม่มีทรัพย์สินล้นฟ้า
มีเพียงความรักความอบอุ่นและการเลี้ยงดูที่สอนให้เธอสู่ในวัยเด็กไม่มีใครบอกเธอว่าเธอจะกลายเป็นสตรีสูงศักดิ์เธอเรียนที่โรงเรียนสมบูรณ์กุลกัญยาก่อนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอัสมชันคณะนิเทศาสตร์หลังเรียนจบเธอเลือกเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของJเอสและต่อมาไทยAirwaysเป็นเส้นทางที่ไม่ได้มีแสงแฟชแต่เธอได้เรียนรู้การรับผิดชอบคนอื่นด้วยรอยยิ้มในปี2553เธอตัดสินใจครั้งใหญ่เข้ารับราชการทหารจากชุดยูนิฟอร์มบริการผู้โดย
สารสู่เครื่องแบบทหารหญิงอย่างสมบูรณ์ไม่ใช่เพราะใครขอแต่เธอเลือกพิสูจน์ตัวเองด้วยระเบียบวินัยและหน้าที่เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดปลอดภัยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชจากนั้นไม่กี่ปีเธอได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วด้วยผลงานและความภักดีเธอไม่ได้ใช้เส้นสายเธอใช้เพียงหยาดเหงื่อและความกล้าหาญปี2559เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายทหารชั้นยศพลเอกหญิงไม่นานหลังจากในหลวงรัชกาลที่10เสด็จขึ้นครองราชย์นี่ไม่ใช่การแต่งตั้งตามพิธีแต่คือรางวัลของ
ความไว้วางใจหลังจากสถาปนาในหลวงรัชกาลที่10บทบาทของเธอก็ยิ่งชัดเจนและสำคัญเธอกลายเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดที่สุดในพระราชวังไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเพื่อภาพลักษณ์แต่เพื่อภารกิจเพื่อความมั่นคงขององค์พระมหากษัตริย์ปี2560เธอได้รับพระราชทานเครื่องโครงราชอิสริยาภรณ์และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านผู้หญิงสุธิดาจากทหารหญิงผู้เงียบงามสู่ท่านผู้หญิงที่ทั่วราชสำนักให้ความเคารพในเวลานั้นสื่อมวลชนเริ่มตั้งคำถามว่าเธอคือใครทำไมถึงได้รับความไว้วางใจสูงขนาดนี้แต่
เธอไม่เคยออกมาพูดไม่เคยอธิบายอะไรเธอเลือกตอบทุกอย่างด้วยการทำหน้าที่1พฤษภาคม2562พระราชสำนักประกาศอย่างเป็นทางการเธอเข้าพิธีสมรสกับพระบาทสมเด็จพระวชิรักษ์เกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นการแต่งงานอย่างเรียบง่ายและเก็บนำจากสาธสาธารณชนแต่ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ไทยมันคือจุดเปลี่ยนสำคัญอีก3วันถัดมาวันที่4พฤษภาคม2562พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีสุธิดานับแต่นั้นมาเธอไม่ได้เป็นเพียงสุธิดาอีกต่อไปแต่คือสตรีผู้เป็น
หนึ่งในสัญลักษณ์ของราชบัลลังก์ภาพของเธอยืนเคียงข้างพระมหากษัตริย์ปรากฏอยู่ในการพระราชพิธีสำคัญทุกครั้งไม่ใช่แค่ในฐานะภรรยาแต่ในฐานะหลักแห่งราชสำนักฝ่ายในและผู้เป็นที่พึ่งพาของราชอาณาจักรจากวันนั้นภาระหน้าที่ของพระองค์ไม่เคยลดลงเลยทุกพระราชกรณียกิจล้วนเต็มไปด้วยความวิริยอุตสาหะทั้งในประเทศและต่างประเทศพระองค์เสด็จร่วมแทบทุกรายการทุกการปรากฏพระองค์ไม่ใช่เพื่อกล้องหรือเสียงปรบแต่เพื่อประชาชนที่พระองค์ทรงตั้งพระทัย
จะรับใช้พระองค์ทรงมีพระอัธยาศัยอ่อนโยนแต่เมื่ออยู่ในภารกิจพระองค์เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวไม่ต่างจากนายทหารที่เคยผ่านการฝึกมาอย่างโชคโชนบ่อยครั้งผู้คนได้เห็นภาพพระองค์ท่ามกลางฝนยืนถวายความเคารพต่อธงชาติไม่ขยับแม้แต่น้อยหรือแม้แต่เดินบนพื้นลูกรังโดยไม่หวั่นไหวใดๆนี่แหละสุธิดาที่ไม่ใช่แค่ราชินีในตำแหน่งแต่คือผู้นำที่ประชาชนจับตามองด้วยความภาคภูมิใจท่ามกลางกระแสสังคมและคำวิจารณ์พระองค์ไม่เคยออกมาปฏิเสธหรือโต้แย้ง
แต่เลือกตอบกลับทุกอย่างด้วยความเงียบที่สนางามและการกระทำที่พูดแทนคำพูดจากสาวน้อยในหาดใใหญ่สุราชินีผู้ส่งอิทธิพลที่สุดในแผ่นดินไม่ใช่ด้วยโชคชะตาแต่ด้วยความเพียรความกล้าและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้แม้ไม่ใช่เจ้าหญิงในเทพนยายแต่เธอคือราชินีในหัวใจของใครหลายคนนี่ไม่ใช่เรื่องเล่าแต่คือชีวิตจริงที่งดงามเกินบรรยายสมเด็จพระราชินีสุธิดาพระราชินีที่แสงสว่างของพระองค์ไม่เคยดับลงเลยแม้บทบาทราชินีจะยิ่งใหญ่เพียงใดพระองค์ก็ยังทรงเรียบง่ายในชีวิตส่วนพระ
องค์มีผู้คนเคยเห็นพระองค์ทรงฉลองพระองค์ไม่เป็นทางการเดินเยี่ยมประชาชนในต่างจังหวัดโดยไม่มีพิธีรีตองนั่นคือพระอัธยาศัยแท้จริงที่ไม่ต้องสร้างภาพทรงสนพระทัยงานด้านสุขภาพและการศึกษาโดยเฉพาะการดูแลสตรีและเยาวชนหลายครั้งพระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กพูดคุยกับครูและแม่บ้านอย่างใกล้ชิดไม่มีใครรู้ว่าคนตรงหน้าคือราชินีของประเทศความอ่อนโยนนี้เองที่ทำให้ประชาชนรักพระองค์แม้ในช่วงที่มีวิกฤตพระองค์ก็ไม่เคยห่างหาย
เมื่อเกิดภัยธรรมชาติพระองค์ทรงอยู่แนวหน้าเสมอส่งทีมงานลงพื้นที่ทันทีพร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ไม่มีการประชาสัมพันธ์ใหญ่โตแต่ความช่วยเหลือมาถึงอย่างแท้จริงในสายตาประชาชนพระองค์คือแม่ของแผ่นดินยุคใหม่ผู้ทรงเข้าใจชีวิตสามัญชนอย่างลึกซึ้งทรงมีสายพระเนตรกว้างไกลเข้าใจโลกใหม่และวิถีคนรุ่นใหม่ทรงสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรมไทยอย่างจริงจังทุกปีพระองค์เสด็จงานผ้าไทยด้วยพระองค์เองสวมใส่ผ้าทอมือจากชุมชนห่างไกลทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจและรายได้
บางครั้งทรงถือกระเป๋าสารที่ชาวบ้านทำเองกลายเป็นกระแสแบบอย่างราชินีทั่วประเทศพระองค์มิได้แค่สนางามแต่ยังทรงยกระดับคุณค่าของชาวบ้านทรงแสดงให้เห็นว่าความงดงามไม่ได้อยู่แค่ในวังแต่อยู่ในรากหญ้าที่งดงามไม่แพ้กันและเธอคือผู้เชื่อม2โลกเข้าด้วยกันจากพื้นล่างสู่ยอดของราชบัลลังก์คือผู้หญิงคนเดียวกันสุธิดามิได้เปลี่ยนเธอเพียงเติบโตในฐานะภรรยาในฐานะผู้นำเธอไม่ได้แค่เป็นหญิงผู้พระบารมีแต่คือแรงบันดาลใจของผู้หญิงทั้งแผ่นดิน
บทเรียนจากชีวิตของเธอคืออะไรมันคือการไม่ยอมแพ้แม้จะไม่มีอะไรเริ่มต้นคือการเงียบเมื่อโลกเสียดังคือการก้าวไปข้างหน้าแม้ไม่มีใครเชื่อมั่นและเมื่อถึงวันหนึ่งที่แสงไฟส่องมาถึงเธอก็พร้อมอย่างสมบูรณ์[เพลง]ความงามของสุธิดาไม่ใช่เรื่องรูปลักษณ์แต่มาจากจิตใจที่มั่นคงมาจากการฝึกวินัยจนกลายเป็นธรรมชาติและมาจากความรักที่เธอมอบให้ต่อสถาบันวันนี้เธอไม่ได้อยู่เบื้องหลังใครอีกต่อไปแต่ยืนเคียงข้างพระราชาด้วยศักดิ์ศรีอัน
เต็มเปี่ยมราชินีที่ประชาชนศรัทธาราชินีที่ทั้งแผ่นดินยกย่องเมื่อกล่าวถึงความกล้าหาญสุธิดาคือคำตอบเมื่อพูดถึงความมั่นคงเธอคือหลักฐานและเมื่อเอ่ยถึงราชินีของประชาชนชื่อของเธอจะไม่มีวันถูกลืมในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ชื่อของสุธิดาจะเป็นหนึ่งในหน้าสำคัญไม่ใช่เพราะตำแหน่ง[เพลง]แต่เพราะคุณงามความดีจากหญิงธรรมดาสู่ราชินีที่แท้จริงไม่ใช่ในเทพนิยายแต่ในชีวิตจริงที่คนทั้งโลกได้เห็นบทบาทนี้เธอไม่ได้ขอแต่รับเพราะเธอคู่ควร
ไม่มีใครให้มงกุฎเธอเธอสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของตนเองด้วยหยาดเหงื่อน้ำตาและหัวใจและที่สุดของเรื่องราวนี้ไม่ใช่แค่การได้ขึ้นเป็นราชินีแต่คือการได้ใจของคนทั้งแผ่นดินแม้เวลาผ่านไปภาพของเธอยังคงอยู่ในความทรงจำในหัวใจในหน้าประวัติศาสตร์นี่คือชีวิตจริงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่ก้มหน้าทำหน้าที่โดยไม่ต้องการคำสรรเสริญและสุดท้ายโชคชะตาก็มอบทุกสิ่งที่คู่ควรสมเด็จพระราชินีสุธิดา[เพลง]พระราชินีแห่งยุคสมัย
พระราชินีแห่งหัวใจคนไทยพระราชินีผู้ส่งพลังอย่างเงียบงามพระราชินีที่แสงสว่างของพระองค์ไม่เคยดับลงพระราชินีที่เป็นทั้งผู้นำแม่และแบบอย่างเธอคือหญิงในตำนานในยุคที่โลกต้องการศรัทธา
