ในหลวง ร.10 ทรงโปรดให้เรียกท่านอ๋องกลับเมืองไทยเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของราชวงศ์ - news thai daily

ในหลวง ร.10 ทรงโปรดให้เรียกท่านอ๋องกลับเมืองไทยเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของราชวงศ์


การพลุโหราศาสตร์ชื่อดังทำนายเกี่ยวกับการกลับมาของท่านอ้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองจะมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นโดยอาจารย์พลุได้ทำนายไปว่าการที่ท่านอ้นกลับไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นดวงท่านอ้นเป็นไปในทิศทางหลวงที่ค่อนข้างเข้มแข็งมากเพราะมีดาวเกษตรตราธิบดีอยู่หลายดวงจริงๆแล้วเชื่อมโยงกับคุณแม่ของท่านคือท่านผู้หญิงสุจาริณีการที่ท่านอ้นกลับไทยก็แปลว่าดวงท่านผู้หญิงสุจาริณีขึ้นด้วยเราก็ต้องมองย้อนไปการที่ท่านลี้

ภัยไปสิ่งสำคัญเลยของการมีชีวิตสามีภรรยาเมื่อเลิกกันแล้วเป็นอื่นแต่บุตรก็ดีบิดามารดาก็ดีโบราณว่าตัดไม่ตายขายไม่ขาดการที่ท่านอ้นได้กลับมาไทยหรือดวงท่านผู้หญิงสู่จาริณีขึ้นอาจตีความได้ว่าดวงพระพันปีอ่อนลงเพราะฉะนั้นจะทายเป็น2มุมมุมหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของสุขภาพของพระพันปีมุมหนึ่งอาจจะทายว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงประเทศบ้านเมืองเชื่อมโยงกับสถาบันการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นกับคนที่มีดาวเกษตรตราธิบดีเยอะๆแบบนี้

มักจะเป็นไปในรูปแบบที่ค่อนข้างจะสงบค่อนข้างจะราบเรียบมีแบบแผนจะไม่ค่อยมีความรุนแรงแต่ถ้าจะมีความรุนแรงเพราะว่าดวงคนอื่นอันนี้ไม่แน่อาจารย์ฟลุ๊คก็ได้ทำนายต่อว่าอาจจะเสริมบารมีท่านพ่อข้อสังเกตข้อ1ของดวงพระชะตาของท่านอ้นผมมองว่าสตรีจะเป็นผู้เสริมบัลลังก์หรือเสริมบารมีเหตุผลข้อนี้เกิดจากว่าในอดีตมีอยู่ตอนหนึ่งที่พระองค์ท่านในหลวงไปนำบุตรสาวคือพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตราชกัญญาเสด็จกลับมาซึ่งพระองค์เจ้า

สิริวัณณวรีนารีรัตราชกัญญาก็เป็นพระธิดาในพระองค์และก็เป็นบุตรสาวของท่านผู้หญิงสุจาริณีเพราะฉะนั้นข้อสังเกตข้อนี้น่าจะมีเรื่องของโหรหรือหลักการวางดวงบางอย่างที่เมื่อผูกพระชะตาแล้วก็ไปเพียงนำบุตรธิดากลับมาไม่ได้นำบุตรชายกลับมาซึ่งเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวปกติของการวางดวงของโหนในการที่จะมองว่าใครที่เหมาะสมแก่ชะตาใครที่ควรอยู่ใกล้หรือใครที่ควรอยู่ไกลซึ่งในเรื่องนี้หากเรานำมาปรับใช้กับชีวิตของเราก็เช่นกันบางทีเราก็ต้อง

มองว่าใครที่เหมาะสมกับชะตาเราอยู่ใกล้กันแล้วส่งเสริมหรือว่าใครที่ควรวางห่างแล้วส่งเสริมอยู่ไกลแล้วดีกว่าทำนายโดยอาจารย์พลุโหราศาสตร์ชื่อดังเรื่องราวความเป็นไปทุกด้านของราชสำนักไทยยังเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นข่าวทางการหรือไม่เป็นทางการไม่ว่าจะเป็นแหล่งข่าวอ้างอิงตามข้อเท็จจริงหรือเพียงข่าวลือและเรื่องที่บอกเล่า90ต่อๆกันมาหากแต่มีเรื่องหนึ่งอันเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกปิดจากการพูดคุย

และถกเถียงในทางสาธารณะโดยเฉพาะเรื่องราวส่วนพระองค์ที่อาจจะกระทบต่อพระเกียรติถึงแม้จะพยายามปิดขนาดไหนประชาชนยังหยุดที่จะนึกถึงไม่ได้โดยที่ไม่มีอะไรกั้นในความคิดของทุกคนได้นั่นคืออดีตหม่อมเจ้าชายทั้ง4คือท่านจุฑาวัฒน์ท่านวัชรีสอนท่านจักรีวัดและท่านวัชรวีวิวัชรวงศ์พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวอดีตหม่อมสุจาริณีวิวัชรวงศ์ที่เรื่องราวและความเป็นไปที่เกี่ยวกับท่านเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นตั้งแต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ซึ่งประชาชนที่เคารพและชื่นชอบในราชสำนักไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความชื่นชมในตัวของท่านชายทั้ง4ซึ่งสำหรับท่านอ้นวัดทะเลสอนดูจะเป็นคนเดียวที่ออกสื่ออย่างโดดเด่นที่สุดโดยมีส่วนร่วมในสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยมากที่สุดซึ่งนอกจากจะมีอาชีพทนายความแล้วยังมีโอกาสได้เข้าร่วมงานต่างๆกับชุมชนไทยในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาและยังมีหลายงานงานบุญงานกุศลที่ได้ไปร่วมใน

ประเทศต่างๆทั้งอังกฤษและอินเดียเป็นต้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมาขณะที่ทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งไทยกำลังเผชิญกับวิกมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าพันธุ์อ้นจึงถือโอกาสนี้แสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีซึ่งประชาชนที่เคารพในสถาบันกษัตริย์ไทยจะมีโอกาสได้เห็นท่านชายทั้ง4ได้กลับมาช่วยแบ่งเบาพระราชภาระซึ่งวันนี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้วที่ท่านอ้นวัดทะเลสอนในฐานะ

พระราชโอรสพระองค์ที่2ได้กลับมายังประเทศไทยแล้วเราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าการกลับมาของพระองค์ในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นโดยหากย้อนไปหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีโดยความขัดแย้งภายในครอบครัวส่วนพระองค์ทำให้หม่อมสุจาได้ดีมหิดลนะอยุธยาในขณะนั้นพาพระโอรสพระธิดาไปประทับยังสหราชอาณาจักรภายหลังพระบาทสมเด็จพระวชิรลักษณ์เจ้าอยู่หัวทรงรับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า

สิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญาพระธิดาองค์เล็กมาประทับในประเทศไทยกระทั่งวันที่13มกราคมพ.ศ2540มีหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักรแจ้งต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่าท่านชายทั้ง4พระองค์ได้ถูกถอดออกจากสถานะพระราชวงศ์และไม่มีสิทธิ์ในการใช้ฐานเงินทองหม่อมเจ้าอีกต่อไปโดยทรงเปลี่ยนให้ใช้นามสกุลพระราชทานวิวัชชันวงศ์แทนนอกจากนี้ท่านอ้นก็มีการเปิดใจผ่านสื่อต่างประเทศย้ำเราจากประเทศนี้มานาน27ปีถือเป็นฝันที่เป็นจริงที่

ได้กลับมาไม่เคยลืมว่าเป็นคนไทยรู้สึกตื้นตันและสำนึกถึงพระคุณของประเทศชาติอยู่เมืองนอกมานานแต่ไม่เคยลืม