แม้ว่าพระองค์จะมีได้ตรัสแต่ในพระทัยของรัชกาลที่10พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาคมถูกกำหนดให้เป็นรัชกาลที่11และสืบราชบัลลังก์ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับของคนหมู่มากเพราะปัจจุบันนอกจากพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาแล้วไม่มีพระโอรสในพระองค์ที่จะรับภาระนี้ได้พระองค์เจ้าทีปังกรยังทรงพระเยาว์และทรงพระเยาว์ขณะที่พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์มีพระชนมายุเกือบ70พรรษาส่วนพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีซึ่งไม่เก่งและมีคุณธรรมพอจะขึ้นเป็นองค์รัชทายาท[เพลง]
พระองค์เป็นหลักไม่ใช่ผู้นำแบบที่รัชกาลที่10ทรงต้องการสมเด็จพระวชิราลงกรณ์นะจึงทรงตั้งพระทัยในพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเป็นอย่างมากประการแรกในด้านศีลธรรมคนให้ทุกคนรู้ดีพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงฉลองพระองค์แบบเรียบง่ายเข้ากับคนง่ายทรงเป็นที่รักใคร่และเข้ากับทุกคนพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาไม่เคยเย่อหยิ่งเหมือนพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีหรือเย็นชาเงียบขรึมเข้าหายากเหมือนพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติใครก็ตามที่ได้สัมผัสกับพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาจะคิด
ว่าระยะห่างแทบไม่มีเลยพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงสนิทสนมและเป็นมิตรกับทุกคนไม่ว่ารวยหรือจนที่เร่หรือสวยประการที่2ด้านการเมืองพระองค์เจ้าพัชรกิติยาผ่านไม่เคยแสดงตนว่าเป็นคนโลเลและชอบทำการเมืองพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาไม่เคยเข้าร่วมการแย่งชิงอำนาจในราชวงศ์พระองค์หญิงไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมืองเหมือนทูลกระหม่อมหญิงอุบลราชกัญญาเจ้าหญิงมักจะพยายามทำงานในประเทศและต่างประเทศให้สำเร็จเมื่อได้รับมอบหมายจากราชวงศ์ไทยและรัฐบาล
ขณะทำงานเป็นทนายความเจ้าหญิงทรงทำงานดีๆมากมายช่วยเหลือและให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่คนยากไร้ในประเทศไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากที่ถูกกดขี่โดยกองกำลังที่ร่ำรวยและมีอำนาจในหลวงรัชกาลที่10ทรงเป็นนักปราชญ์มากเกลียดคนหญิงยโสที่ใช้อำนาจข่มเหงรังแกผู้อื่นสาเหตุหนึ่งที่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์[เพลง]ต้องออกจากราชวงศ์และทั้งครอบครัวต้องเข้าคุกก็เพราะพระบาทสมเด็จพระวชิราลงกรณ์ซึ่งเป็นเจ้าฟ้าในตอนนั้นทรง
ตระหนักดีว่าท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์สุวะดีพึ่งพาท่านเพื่อให้ประสูติพระโอรสคือทีปังกรรัศมีโชตินี้จะเป็นบริษัทของประเทศไทยท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์สุวรรณดีร่วมกับเครือญาติเพื่อร่วมอำนาจและความทะเยอทะยานทางการเมืองซึ่งรัฐไม่ได้กับรัชกาลที่10ในบรรดาสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมดมีเพียงพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเท่านั้นที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่เทิดทูนในรัชกาลที่10ความสามารถอันดับ3ในบรรดาบุตร3คนมีเพียงพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเท่านั้นที่
ได้รับการศึกษาสูงสุดพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษก่อนจะทรงศึกษากฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทยจากนั้นเธอได้รับปริญญาโทและปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนเนมพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงเป็นทูตพิเศษของไทยประจำอ่อนเรียน[เพลง][เพลง]นิยมช่องThailandในวันนี้Official